วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

แบบร่างโครงงานคอมพิวเตอร์


แบบร่างโครงงานคอมพิวเตอร์


แบบร่างโครงงานคอมพิวเตอร์

แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2558

ชื่อโครงงาน เปลือกไข่ไล่มด


ชื่อผู้ทำโครงงาน
1.นายกฤตัชญ์   กันธิยะ ชั้น เลขที่ 21 ชั้น ม.6  ห้อง   




ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน   ครูเขื่อนทอง  มูลวรรณ์





ระยะเวลาดำเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2558





โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย  จังหวัดเชียงใหม่
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34  







ใบงาน
การจัดทำข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์

สมาชิกในกลุ่ม
1.นายกฤตัชญ์   กันธิยะ  เลขที่ 21
คำชี้แจง  ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้

ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
เปลือกไข่ไล่มด
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)                  

Eggshell chasing ants

ประเภทโครงงาน วิทยาศาสตร์
ชื่อผู้ทำโครงงาน  นายกฤตัชญ์   กันธิยะ ชั้น ม 6/2 เลขที่ 21
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ชื่อที่ปรึกษาร่วม -
ระยะเวลาดำเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 เดือนกุมภาพันธ์ ปีการศึกษา 2558

ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
          เนื่องจากมดเป็นสัตว์ที่ไม่มีที่อยู่แน่นอนมันสามารถอยู่ได้ทุกๆที่ ไม่ว่าจะเป็นห้องอาหารหน้าบ้าน หรือแม้กระทั้งห้องน้าจึงทาให้มดเป็นปัญหาที่ทุกคนเคยประสบพบเจอกับตัวเองมันเป็นปัญหาที่เกิดใน ชีวิตประจาวันเป็นปัญหาเล็กๆที่ทาให้มนุษย์เกิดความราคาญจึงทาให้คนคิดหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยการ ใช้สารเคมีโดยสารเคมีในการกาจัดมดแมลงนี้มีอันตรายจากสารเคมีซึ่งเป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ที่ ขายตามท้องตลาดเมื่อใช้ไประยะเวลาต่อเนื่องจะเกิดอาการสะสมในร่างกายจนเกิดโรคตามมาในภายหลัง มดเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีการหาอาหารเป็นทีมจึงทาให้เมื่อมดขึ้นอาหารหรือสิ่งอื่นๆมันไม่ได้ขึ้นเพียง แค่ตัวเดียวหรือสองตัวแต่มันขึ้นเป็นจานวนมากทาให้การจัดการหรือกาจัดมันทาได้ยากกว่าสัตว์อื่นกลุ่ม ของข้าพเจ้าจึงลองคิดวิธีการกาจัดมดในวิธีที่มีประสิทธิภาพและไม่มีผลอันตรายต่อสุขภาพเพื่อที่จะได้ ใช้ได้ในทุกๆพื้นที่ในบ้านได้เนื่องจากมดสามารถไปได้ในทุกๆที่ของบ้าน โดยเฉพาะในส่วนของห้องครัว ที่ผู้คนไว้ใช้ในการประกอบอาหารจึงต้องคานึงถึงผลต่างๆที่อาจตามมาในภายหลังจากการได้รับสารเคมี จากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมี กลุ่มของข้าพเจ้าได้ทาการศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับชอล์กที่ได้วางขายตามท้องตลาดทั่วๆไปทาไมจึง สามารถไล่มดได้เราจึงลองศึกษาข้อมูลต่อไปว่ามีอะไรบ้างที่สามารถนามาทดแทนสารเคมีในผลิตภัณฑ์ เราจึงค้นพบว่าเปลือกไข่มีคุณสมบัติที่คล้ายคลึงเพราะเปลือกไข่มีCaCo3 เป็นองศ์ประกอบของเปลือกไข่ ซึ่ง CaCo3 มีความเป็นด่างจึงสามารถไล่มดได้แล้วเปลือกไงที่เราสามารถหาได้ง่ายมาก

วัตถุประสงค์
    1.เพื่อไล่มดไม่ให้มากินเศษอาหาร
    2.เพื่อประหยัดงบประมาณ

ขอบเขตโครงงาน
       ที่บ้านในห้องครัว

หลักการและทฤษฎี
       ใช่สมบัติของสารเคมี

วิธีดำเนินงาน
แนวทางการดำเนินงาน
      1. ประชุมวางแผนการดำเนินงาน
      2. ลงมือทดลอง
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
        เปลือกไข่
งบประมาณ
        ไม่มีเพราะใช่ของเหลือใช้
ขั้นตอนและแผนดำเนินงาน

ลำดับ
ที่
ขั้นตอน
สัปดาห์ที่
ผู้รับผิดชอบ
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
1
คิดหัวข้อโครงงาน
 /
2
ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล

/

/

 /

 /


3
จัดทำโครงร่างงาน
 /
 /
4
ปฏิบัติการสร้างโครงงาน

 /

 /

 /

  /

 /
5
ปรับปรุงทดสอบ
 /
6
การทำเอกสารรายงาน

 /

 /

/
7
ประเมินผลงาน

 /
8
นำเสนอโครงงาน
 /

ผลที่คาดว่าจะได้รับ
        สามารถไล่มดในครัวได้โดยไม่ใช่สารเคมีที่ผลิตขึ้น
สถานที่ดำเนินการ

       ห้องครัวในบ้าน

กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
        วิทยาศาสตร์ สาขาเคมี
แหล่งอ้างอิง 
        http://www.slideshare.net/Songsak1/ss-32118278

วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2558

กิจกรรมที่ 5 พรบ 2558

Cr: http://www.opectraining.com/news/


พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2558
(การคุ้มครองข้อมูลการบริหารสิทธิและกำหนดข้อยกเว้นการกระทำละเมิดลิขสิทธิ์และสิทธิของนักแสดง)

1. ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่ม 132 ตอนที่ 6 ก เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ผ่านมา
2. มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2558 เป็นต้นไป
3. สำหรับสาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ มีดังนี้


(1) คุ้มครองข้อมูลการบริหารสิทธิเพื่อส่งเสริมการเผยแพร่งานอันมีลิขสิทธิ์และคุ้มครองสิทธิในข้อมูลที่เจ้าของลิขสิทธิ์ที่ใช้บริหารจัดการสิทธิของตนไม่ให้คนอื่นมาลบหรือเปลี่ยนแปลงโดยไม่ชอบ เช่น การลบข้อมูลเกี่ยวกับชื่อเจ้าของลิขสิทธิ์ ชื่อผู้สร้างสรรค์ ชื่อนักแสดง เป็นต้น โดยหากบุคคลใด ลบ หรือเปลี่ยนแปลง ข้อมูลดังกล่าว ถือว่ามีความผิดฐานละเมิดข้อมูลการบริหารสิทธิ

(2) คุ้มครองมาตรการทางเทคโนโลยีที่เจ้าของลิขสิทธิ์นำมาใช้ปกป้องงานอันมีลิขสิทธิ์ของตนเพื่อป้องกันการทำซ้ำหรือการเข้าถึงงานอันมีลิขสิทธิ์ เช่น พาสเวิร์ด (password) ที่เจ้าของลิขสิทธิ์นำมาใช้ในการควบคุมการเข้าถึงงานอันมีลิขสิทธิ์ของตนที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต เป็นต้น โดยหากบุคคลใดทำลายมาตรการทางเทคโนโลยีดังกล่าว โดยเจ้าของลิขสิทธิ์ไม่ยินยอมถือว่ามีความผิดฐานละเมิดมาตรการทางเทคโนโลยี

(3) กำหนดข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์การทำซ้ำชั่วคราว (Exception for Temporary Reproduction) เพื่อกำหนดให้ชัดเจนว่าการทำซ้ำชั่วคราวโดยความจำเป็นของเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อการเรียกดูงานอันมีลิขสิทธิ์ไม่ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ เนื่องจากการดูภาพยนตร์ หรือฟังเพลงจากเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องคอมพิวเตอร์จำเป็นต้องมีการทำซ้ำงานเพลงหรือภาพยนตร์ดังกล่าวไว้ในหน่วยความจำ (RAM) ทุกครั้ง ด้วยความจำเป็นทางเทคนิคดังกล่าวทำให้ทุกครั้งที่มีการใช้งานอันมีลิขสิทธิ์จากเครื่องคอมพิวเตอร์ ผู้ใช้งานจะต้องทำซ้ำงานด้วยเสมอ การทำซ้ำลักษณะนี้เป็นการทำซ้ำชั่วคราว ที่ไม่ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์

(4) เพิ่มเติมเรื่องการกำหนดข้อจำกัดความรับผิดของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Liability Limitation of ISP) เพื่อให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต เช่น เจ้าของเว็บไซต์ Youtube ไม่ต้องเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องละเมิดลิขสิทธิ์ โดยให้เจ้าของลิขสิทธิ์สามารถร้องขอให้ศาลสั่งให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเอาไฟล์ละเมิดลิขสิทธิ์ออกจากเว็บไซต์ ซึ่งเจ้าของลิขสิทธิ์จะต้องแสดงหลักฐานต่างๆ ต่อศาลอย่างเพียงพอ และเมื่อศาลได้มีคำสั่งให้เอาไฟล์ละเมิดออกจากเว็บไซต์แล้ว และเจ้าของเว็บไซต์ดำเนินการตามคำสั่งศาล เจ้าของเว็บไซต์ไม่ต้องรับผิดเกี่ยวกับการกระทำที่อ้างว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ดังกล่าว

(5) เพิ่มข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์กรณีการจำหน่ายต้นฉบับหรือสำเนางานอันมีลิขสิทธิ์ โดยนำหลักการระงับไปซึ่งสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา (Exhaustion of Rights) มากำหนดให้ชัดเจนว่าการขายงานอันมีลิขสิทธิ์มือสองสามารถทำได้โดยไม่ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ เช่น การขายภาพเขียน หนังสือ ซีดีเพลง ซีดีภาพยนตร์ เป็นต้น อย่างไรก็ดี หากเป็นการขายซีดีภาพยนตร์จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยภาพยนตร์และวีดีทัศน์ด้วย มิฉะนั้น แม้ไม่ผิดตามกฎหมายว่าด้วยลิขสิทธิ์ แต่อาจมีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยภาพยนตร์และวีดิทัศน์ได้

(6) เพิ่มเติมเรื่องสิทธิทางศีลธรรมของนักแสดง (Moral Right) เพื่อเพิ่มสิทธิให้นักแสดง มีสิทธิทางศีลธรรมเท่าเทียมกับสิทธิทางศีลธรรมของผู้สร้างสรรค์งานอันมีลิขสิทธิ์ โดยนักแสดงมีสิทธิระบุชื่อตนในการแสดงที่ตนได้แสดง และห้ามไม่ให้บุคคลใดกระทำต่อการแสดงของตนจนทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงหรือเกียรติคุณ

(7) เพิ่มบทบัญญัติเรื่องค่าเสียหายในเชิงลงโทษ (Punitive damages) โดยกำหนดให้ศาลมีอำนาจสั่งให้ผู้ละเมิดลิขสิทธิ์หรือสิทธิของนักแสดงจ่ายค่าเสียหายเพิ่มขึ้นไม่เกินสองเท่าของค่าเสียหาย ในกรณีที่ปรากฏหลักฐานชัดแจ้งว่ามีการกระทำโดยจงใจหรือมีเจตนาให้งานอันมีลิขสิทธิ์หรือสิทธิของนักแสดงสามารถเข้าถึงโดยสาธารณชนได้อย่างแพร่หลาย

(8) กำหนดให้ศาลมีอำนาจสั่งริบหรือทำลายสิ่งที่ได้ใช้ในการกระทำละเมิด และสิ่งที่ได้ทำขึ้นหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรอันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์หรือสิทธิของนักแสดง


เพิ่มเติม






กิจกรรมที่ 2 ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์


cr.http://ultimate-computer-sales.webs.com/happey%20computer%20good.PNG
                 ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์     คอมพิวเตอร์ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยในทุก ๆสาขาวิชา ดังนั้นโครงงานคอมพิวเตอร์จึงมี ความหลากหลายเป็นอย่างมากทั้งในลักษณะของเนื้อหา กิจกรรมและลักษณะของประโยชน์หรือผลงาที่ได้ซึ่ง อาจแบ่งเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ 5 ประเภท คือ
1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media)
2. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ (Tools Development)
3. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี (Theory Experiment)
4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน (Application)
5. โครงงานพัฒนาเกม(Game Development)
                                                                                             

1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media)
           เป็นโครงงานทีใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษาโดยการสร้างโปรแกรม บทเรียน หรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัดบททบทวนและคําถามคําตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้ ถือว่าเครื่อง คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอนไม่ใช่เป็นครูผู้สอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบ Online ให้ นักเรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการ สอนในวิชาต่าง ๆไม่ว่าจะเป็นสาขา คอมพิวเตอร์ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาสังคมวิชาชีพอื่น ๆ ฯลฯโดยนักเรียนอาจคัดเลือก หัวข้อที่นักเรียนทั่วไปที่ทําความเข้าใจยากมาเป็นหัวข้อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรียน ตัวอย่าง เช่น โปรแกรมสอนวิธีการใช้งาน ระบบสุริยะจักรวาล โปรแกรมแบบทดสอบวิชาต่าง ๆ  พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย โปรแกรมช่วยสอนคณิตศาสตร์ เป็นต้น

cr.http://a1.trd.cm/thaisecondhand/201410/03x/10274262_2.jpg

cr.http://www.vcharkarn.com/uploads/81/81257.jpg


2. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ (Tools Development) 
         เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเรื่องมือมาใช้ช่วยสร้างงานประยุกต์ต่าง ๆซึ่งโดยส่วนใหญ่จะ เป็นในรูปซอฟต์แวร์ ตัวอย่างของเครื่องมือช่วยงาน เช่นซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน ซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่าง ๆเป็นต้นสําหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็น โปรแกรมประมวลผลภาษาซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เราใช้งานในงานพิมพ์ต่าง ๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นไปได้โดยง่าย ซึ่งรูปที่ได้สามารถนําไปใช้งานต่าง ๆได้มากมาย สําหรับซอฟต์แวร์ช่วยในการมอง วัตถุในมุมต่าง ๆใช้สําหรับช่วยในการออกแบบสิ่งของต่าง ๆ เช่น โปรแกรมประเภท 3D  โปรแกรมการค้นหาคำภาษาไทย โปรแกรมอ่านอักษรไทย เป็นต้น

cr.https://issaraphorn49.files.wordpress.com/2014/12/2.png
cr.http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/849/16849/images/search4.JPG


3. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎ ี(Theory Experiment) 
          เป็นโครงงานใช้คอมพิวเตอร์ในการจําองการทดลองของสาขาต่าง ๆเป็นโครงงานที่ ผู้ทําต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการข้อเท็จจริงและแนวความคิดต่าง ๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจําลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสมการ สูตรหรือ คําอธิบายก็ได้ พร้อมทั้งนําเสนอวิธีการจําลองทฤษฎีด้วยคอมพิวเตอร์การทําโครงงานประเภทนี้มี จุดสําคัญอยู่ที่ผู้ทําต้องมีความรู้เรื่องนั้น ๆเป็นอย่างดี ตัวอย่าง เช่น การทดลองเรื่องการไหลของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาอโรวาน่า ทฤษฎีการแบ่งแยกดีเอ็นเอ เป็นต้น 


cr.http://www.krujintana.com/content/picture/project2.jpg

cr.http://4.bp.blogspot.com/-0m3LFbMTAKw/UDM7yiETH4I/AAAAAAAAAPQ/4Uv4qK5pfPU/s320/tell.jpg

4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน (Application) 
           เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจําวัน โครงงานงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์หรืออุปกรณ์ใช้ สอยต่าง ๆซึ่งอาจจะสร้างใหม่หรือปรับปรุงดัดแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นก็ได้ โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อนแล้วนําข้อมูลที่ได้มาใช้ในการ ออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้น ๆต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทํางานหรือทดสอบคุณภาพของ สิ่งประดิษฐ์แล้วปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์โครงงานประเภทนี้นักเรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับ เครื่องคอมพิวเตอร์ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งอาจใช้วิธีทางวิศวกรรม ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในการพัฒนาด้วย  เช่น ระบบจองตั๋วเครื่องบินในอินเทอร์เน็ต ระบบแนะนำเส้นทางการเดินทาง ซอฟต์แวร์สําหรับการออกแบบและตกแต่งอาคาร  ซอฟต์แวร์สําหรับการผสมสี ซอฟต์แวร์สําหรับ การระบุคนร้าย เป็นต้น

cr.https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEij4coDQqutCcShj-O_rlfE0tZiC5UPUbFIQvZyZmm6RKN-O3NF-UxBA0C02-J9p2zWI2UeiQE3ny0dNw8q9r9nesHLlIlIwRPHBDWFE_obYOUpPLuqZlnonTpKM8FtFqKO7BnHl8UMhdxx/s1600/s5.jpg

cr.http://www.etcservice.com/public/products/sketch_up/images/modern.jpg


5. โครงงานพัฒนาเกม (Game Development) 
          เป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้ และ/หรือความเพลิดเพลิน เกมที่พัฒนาขึ้นนี้น่าจะเน้นให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรงเน้นการใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่างมี หลักการโครงงานประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่นเพื่อให้น่าสนใจเก่ผู้เล่น พร้อมทั้ง ให้ความรู้สอดแทรกไปด้วยผู้พัฒนาควรจะได้ทําการสํารวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่าง ๆที่มีอยู่ทั่วไป และนํามาปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่และน่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่าง ๆ  เช่น เกมหมากรุก เกมหมาก ฮอส เกมการคํานวณเลข เป็นต้น

cr.https://porsn1977.files.wordpress.com/2012/08/s3.jpg